วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2558

(Review) The Tale of Princess Kaguya - จิบลิเป็นอย่างไหน จิบลิก็ยังคงเป็นเช่นนั้น


The Tale of Princess Kaguya
เจ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่

ภาพยนตร์เรื่องไม่ใหม่ของ Studio Ghibli ที่พึ่งนำมาฉายในบ้านเรา
ด้วยศิลปะการทำภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ดึงดูดคนดูมาตลอด ผมจึงต้องจ่ายเงินอย่างเลี่ยงไม่ได้จริงๆ

หลังจากผลัดวันประกันพรุ่งมาหลายครั้ง ว่าจะดูก็ไม่ได้ดูสักที เมื่อวานนี้ (15 ม.ค. 57) ผมกับพี่จึงตกลงกันว่าจะดูเรื่องนี้ ต้องบอกก่อนเลยว่า ตอนดูผมเหม่อค่อนข้างบ่อย แต่ผมก็ไม่ได้พลาดรายละเอียดของหนังแม้แต่น้อย เอาล่ะครับ เรามาดูข้อดีข้อเสียกันเลยดีกว่า


มาเกริ่นเรื่องคร่าวๆก่อนละครับ มันเริ่มเรื่องตามตำนาน ก็คือชายตัดไม้ไผ่เข้าไปตัดไม้ในป่า แล้วพบก็หน่อไม้ประหลาด ที่อยู่ๆก็โตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทันใดหน่อไม้ก็เปิดกลีบขึ้นมาพร้อมกับหญิงสาวข้างใน ชายตัดไม้เชื่อว่าเป็นสิ่งที่สวรรค์ให้มา พร้อมเรียกหญิงสาวว่าเจ้าหญิง เธอเปลี่ยนจากร่างคล้ายตุ๊กตา (ตามรูปภาพด้านบน) เป็นทารก และเติบโตขึ้นเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว

เรื่องราวดำเนินถึงชีวิตของเจ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่ การพบเจอเหตุการณ์ต่างๆ ที่น่าทึ่งคือการทำให้เรื่องเล่าเรื่องหนึ่ง ขยายเป็นอนิเมชั่นได้ถึง 2 ชั่วโมง 17 นาที! แต่ความยืดเยื้อของเนื้อเรื่องเองก็ยังมี เช่นเดียวกับตอนที่ผมดู The Wind Rises เมื่อช่วงกลางปี มีความยืดเยื้อที่ทำผมแอบหาว แต่มันก็อุดมไปรวยรายละเอียด ที่แม้จะหาวไปบ้าง ก็หยุดแหกตาดูไม่ได้ 


ลายเส้นที่สร้างมาจากสีน้ำของเรื่องนี้ บางคนอาจมองว่ามันไม่สวยบ้าง ดูรายละเอียดแปลกๆบ้าง ดูลวกๆบ้าง คำพูดเหล่านี้ ต้องลองไปดูเองครับ แล้วจะรู้ว่า ความตั้งใจในการใส่รายละเอียดของเรื่องนี้มันมากมายจริงๆ อนิเมชั่นที่อาจจะดูหยาบของ Studio Ghibli มันคือเอกลักษณ์ที่สวยงาม 

มันไม่จำเป็นต้องลื่นไหลสไลเดอร์เหมือนอนิเมชั่นฝรั่ง แต่เขาจะใส่รายละเอียดกับทุกๆฉาก จนเราไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ได้ มันสื่ออารมณ์ออกมาได้ดี แสงสีของเรื่องกลบความมืดในโรงหนังไปเลย แทบไม่ต้องคิดถึงเลยว่า ตอนนี้ข้างนอกมันกี่โมงแล้ว 


ตอนดูเรื่องนี้ หน้าตาตัวละครบางตัวเห็นแล้วนึกถึงมู่หลานเลยทีเดียว มานั่งดูไปเรื่อยๆ เราก็เริ่มเข้าใจแล้วว่า ทำไมบางคนถึงเรียกสตูดิโอนี้ว่า Disney แห่งญี่ปุ่น ถึงมันจะมีบางส่วนที่คล้ายกัน เพราะองค์ประกอบเขาดีเหมือนกัน แต่ผมว่ายังไง Ghibli ก็คือ Ghibli 

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้ต้องทำให้ยาวด้วยล่ะ? ตอนผมนั่งดูผมก็คิดนะครับ มันตัดให้เหลือชั่วโมงครึ่งก็ได้ หนังมันยังได้ใจความอยู่ ไม่ขาดหายมากจนเกินไป ซึ่งนี่แหละครับ นี่เลย ที่ทำให้หนังเรื่องนี้มันไม่เหมือนใคร เพราะว่ามันใส่รายละเอียดทุกอย่างลงไปเลย คนที่ไม่ได้ชอบดูหนังอะไรขนาดนั้น ไม่ได้สนใจเรื่องรายละเอียด หรือ องค์ประกอบขนาดนั้น ก็อาจจะเบื่อไป แต่ถ้าคุณชอบดูเรื่องรายละเอียด คุณจะตกใจเลยว่า เฮ้ย ทำไมมันใส่เข้าไปเยอะแล้วลงตัวขนาดนี้วะ! ทุกฉากจะถูกขยายตีแผ่มา ให้คุณได้เข้าใจอารมณ์มากที่สุด


เรื่อง Soundtrack ใครที่ดูภาพยนตร์ของค่ายนี้บ่อย จะรู้ว่าหนังมันเน้นความเป็นจริงมากกว่า มันจะได้ใส่เพลงตลอดทั้งเรื่องขนาดนั้น แต่ใส่เรื่องของ Sound Effect ที่สมจริงทุกขั้นทุกตอนมากกว่า แต่ถ้าจะให้พูดถึงเพลงในเรื่องล่ะก็ เพราะมากเลยล่ะ 

แต่ในความลงตัวเอง ก็ยังมีความไม่ลงตัวอยู่บ้าง เราย่อมรู้ๆกันอยู่ว่า เรื่องเล่าหรือนิทาน ความรักจะให้มันโรแมนติคก็คงทำยาก เพราะผมแทบจะไม่เห็นเรื่องไหนมันโรแมนติคแบบลึกซึ้งสักที หรือถ้ามันมี ผมเองก็ยังไม่เคยได้สัมผัส เช่นเดียวกับตอนผมดูหนังจีนที่สร้างมาจากตำนานรักต่างๆนาๆ มันก็ยังทำให้ผมรู้สึกว่า นี่พวกมึงรักกันง่ายไปไหม แต่เรื่องเจ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่ ก็ไม่ได้เรียกว่ารักง่าย แต่เหมือนกับเป็นความผูกพันธ์ระหว่างนางเอกกับพระเอก แต่เหมือนเขาจะไม่ได้มาเน้นตรงนี้สักเท่าไหร่ มันจึงทำให้ผมรู้สึกว่า อย่างน้อยถ้าแหกกฎของเรื่องเล่า แล้วใส่ความดราม่าตรงนี้อีกนิดนึง ไม่ต้องไปเน้นมันเยอะเหมือนหนังรักหรอก แค่ทำให้รู้สึกว่าความรักของนิทานมันมีอะไรให้เห็นมากกว่าสิ่งที่คนเขาเล่ามา


ท้ายนี้ต้องขออภัยถ้าผมรีวิวได้ไม่ตรงจุด หรือยังพูดได้ดีไม่พอ อันที่จริงผมก็ดูเรื่อง Ghibli มาพอสมควร แต่ก็ไม่เคยได้ดูจริงจังสักเรื่อง เลยอาจทำให้แผ่หนังเรื่องนี้ออกได้ไม่มาก เอาเป็นว่าขอให้คะแนนเลยแล้วกันครับ

Mad Score! : 7.5/10
คุ้มเงิน คุ้มใจ ไม่เสียดาย











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น