วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557

(Review) Boyhood - บอยฮูด - 12 ปีแห่งการถ่ายทำ นี่แหละ รีลไทม์


BOYHOOD
บอยฮูด

หนังที่โปรโมทว่าถ่ายทำถึง 12 ปี
ได้ metascore ถึง 100/100 มันบ้าไปแล้ว!!
หลายคนคงเคยคิดกันเล่นๆ ว่าเฮ้ย หนังทั่วไป เวลาตัวละครมันจะอายุมากขึ้น มันจะโตขึ้น มันจะเปลี่ยนช่วงเวลาของหนัง มันก็เปลี่ยนคนแสดงไปเลยเป็นเรื่องปกติ แต่มันจะมีสักเรื่องไหมนะ ที่ไม่เปลี่ยนคนแสดงเลย?


ถึงภาพยนตร์เรื่องนี้จะโฟกัสไปที่ชีวิตของเด็กน้อย เมสัน แต่มันก็ใช่ว่าเด็กคนนี้เป็นคนเดียวที่เล่นตลอด 12 ปีนี่? ทุกคนที่เป็นตัวละครเอกในเรื่อง เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพวกเขาตลอด ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ พี่สาว หรือบุคคลรอบข้าง บางตัวละครเข้ามาแล้วผ่านไป แต่นี่แหละ ก็คือความสมจริง ที่หนังเรื่องอื่นทำไม่ได้


แนวเรื่องของเรื่องนี้ ไม่ได้มีอะไรตื่นเต้น ขนาดนี้ที่คุณจะรู้สึกว่า ว้าว มันช่างน่าตื่นตาตื่นใจเหลือเกิน แต่มันคือหนังอินดี้ ที่ทุกคนที่อยู่ในวงการหนังจับตามอง นั่นเพราะว่ารายละเอียดหรือ detail ของเรื่องนี้ มันเยอะแล้วเปี่ยมไปด้วยคุณภาพจริงๆ 

คุณจะได้อินไปกับการใช้ชีวิตของเมสัน ปัญหาครอบครัว ความรัก ความเศร้า ความรู้สึกในช่วงเวลาต่างๆตั้งแต่เด็กน้อย ยันหนุ่มวัยรุ่น บางครั้งอาจตรงกับชีวิตของใครหลายคนอย่างไม่น่าเชื่อ ทุกช่วงเวลาที่คุณได้รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ คุณจะรู้สึกเหมือนคุณได้มีส่วนรวมในทุกการกระทำของเด็กชายคนนี้ คุณได้เห็นพัฒนาการของเขา จนคุณแทบรู้สึกว่า เราคือส่วนหนึ่งของเขา


เนื้อเรื่องเป็นไปอย่างน่าสนใจ เรียบง่าย และลึกซึ้ง หนังเรื่องนี้มีความยาวกว่า 2 ชั่วโมง 45 นาที ยาวพอๆกับ Transformers 4: Age of Extinction เลยล่ะ แต่ด้วยความที่เป็นหนังคนละแนว คุณอาจจะไม่ได้สนุกไปกับฉากแอคชั่นที่จะมาฆ่าเวลาคุณไปอย่างรวดเร็ว แต่คุณจะได้รับความเพลิดเพลิน ชีวิตที่น่าสนใจ ชีวิตที่มีปัญหา และมีทางออก จนมันฆ่าเวลาของคุณเร็วยิ่งกว่าฉากแอคชั่นเสียอีก

เราจะได้รับรู้ชีวิตของเด็กคนนึง ที่ค่อยๆเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ปัญหาครอบครัว ปัญหาความรัก ปัญหาวัยรุ่น สิ่งพวกนี้ ทุกคนล้วนต้องเจอ เราอาจจะไม่ได้เจอในสิ่งเดียวกับที่ตัวละครเจอ แต่เราก็รับรู้ได้ถึงการถ่ายทอด และเจตนารมณ์ของผู้กำกับ 

คุณจะรู้สึกตื่นเต้นเสมอ (แต่อาจไม่ทุกคน) ที่จะได้เห็นการเติบโตของตัวละครแต่ละตัว เพราะนักแสดงที่มาแสดง ไม่ต่างอะไรกับนักแสดงแฮรี่ พอตเตอร์ที่เติบโตขึ้นทุกภาค เพียงแต่เรื่องนี้มีภาคเดียว และจะไม่มีทางมีภาคต่อ ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนช่วงเวลา ผมจะรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นตัวละครแต่ละตัวมีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะพี่สาวของตัวเอก หรือเมสัน ผมอยากรู้ว่าเธอจะสวยขึ้นแค่ไหน แต่ท้ายสุดก็ไม่พลาดแนวที่คิดไว้ (5555) บางตัวละครทำผมอึ้งกับความหล่อเหลาเมื่อใกล้ช่วงวัยรุ่น ถึงกับต้องอุทานขณะนั่งดูกับพี่ชายว่า เฮ้ย ทำไมมันหล่อจังวะ 

 


ถ้ามันเป็นภาพยนตร์ที่เปลี่ยนตัวนักแสดงละก็ มันคงเปลี่ยนหลายคนอยู่เหมือนกัน เพราะภาพยนตร์ที่เปลี่ยนนักแสดงส่วนใหญ่ก็จะมีช่วงเวลาเพียงไม่กี่ช่วง และเมื่อข้ามช่วงไป ก็จะผ่านไปหลายปี เช่นผ่านไป 5 ปีบ้าง 10 บ้าง 20 บ้าง แต่เรื่องนี้ จะค่อยๆเปลี่ยนที่ละน้อยๆ 1 ปีบ้าง 2 ปีบ้าง ทำให้รายละเอียดในตัวภาพยนตร์นั้นเยอะมากๆ แต่ทุกช่วงปี จะมีจุดที่บ่งบอกเสมอว่า กำลังอยู่ในปีอะไร โดยใช้หลักความเป็นจริงในยุคนั้นๆมาเสนอ

ถ้าได้ metascore 100/100 ขนาดนี้ คงไม่ต้องถามว่าตัวละครแต่ละตัวแสดงดีไหมแล้วล่ะมั้งครับ เพราะผมพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า ทุกคนมีความสามารถ ไม่ว่าเธอคนนั้นจะเป็นตัวประกอบ ตัวเด่น หรือตัวที่่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ทุกคนแสดงได้ดี และทำให้รู้สึกว่า เราไม่ได้เพียงแค่ดูหนัง แต่เรากำลังดูชีวิตของคนๆหนึ่งจริงๆ

การถ่ายทำสถานที่ต่างๆอาจจะเน้นธรรมดาไปบ้าง แต่ก็มีที่สวยๆให้เห็นอยู่ร่ำไป ชีวิตคนเราจะให้ไปที่สวยๆงามๆตลอดเวลาก็คงไม่ใช่

สีฟิล์มเสมอกันตลอดทั้งเรื่อง นี่คือสิ่งที่ผมชอบ แม้มีการเปลี่ยนยุคสมัย แต่มันไม่ได้สร้างความขัดแย้งในจุดนี้ขึ้นมาเลย 

ซาวน์แทร็กเรียกได้ว่าเพราะทุกเพลงครับ ดีมากๆ ดีจริงๆ 

และที่สำคัญ หนังเรื่องนี้ให้แนวทางในการใช้ชีวิต สอนให้คุณรู้จักชีวิต โดยที่คุณจะได้รับประสบการณ์ดีจากหนังเรื่องนี้แน่นอน 299.- ไม่มีคำว่าแพงเกินไปสำหรับหนังเรื่องนี้ เมื่อคุณซื้อมา คุณจะไม่มีทางเสียใจ (บวกกับพอดีพี่ซื้อด้วย 555)


Mad Score! : 9.5/10
ได้ใจไปแล้วทั้งใจ